Energy Release Anti-friction Metal Conditioner

ENERGY RELEASE (ER) Anti-Friction Metal Conditioner

- ปกป้องเครื่องยนต์ภายใต้แรงกดอัดและอุณหภูมิสูง
- ลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานเชื้อเพลิง
- เพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์ แรงม้าเพิ่มขึ้น
- เมื่อน้ำมันหล่อลื่นพร่องหายไปหรือเสื่อม เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ เพลา และอุปกรณ์อื่น ๆ ยังคงทำงานต่อไปเหมือนปกติ

- ไม่เป็นฟิล์มหรือชั้นคราบเกาะบนผิวโลหะ อันก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ในเครื่องยนต์ที่มีความละเอียดสูง
- ลดความร้อนและเสียงดัง

ENERGY RELEASE (ER) ผลิตภัณฑ์เคมีชั้นสูง ต้นแบบพัฒนาโดยวิศวกรเคมีจาก Entech Corporation สหรัฐอเมริกา เป็นเคมีภัณฑ์ 100% ปราศจากสารประกอบเคมี หรือสารโลหะที่อาจเป็นอันตรายต่อเครื่องยนต์ ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม จึงไม่ติดไฟและย่อยสลายได้ ใช้ในการปรับสภาพผิวโลหะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการหล่อลื่น และลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ โดยออกแบบให้ใช้ร่วมกับน้ำมันหล่อลื่นทุกประเภท แบบปิโตรเลียมหรือสังเคราะห์, น้ำมันไฮดรอลิค รวมทั้งสารทำความเย็นฟรีออน หรือแอมโมเนีย


ด้วยการทำงานของ ER - Chemical Adsorption Heat Activated Technology ที่มีการยึดเกาะระดับอิออนทางเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ (โดยไม่เคลือบผิวหรือเป็นฟิล์ม) เป็นผลให้ผิวโลหะเรียบลื่น แข็งแรง ลดการเสียดสี ลดการสึกหรอ
การทดสอบและรับรองผล

ผ่านการทดสอบต่างๆ ตามมาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) โดยห้องทดสอบสถาบัน กว่า 30 รายการ อาทิเช่น


ลดแรงเสียดทานได้ 75.6%
ลดการสึกหรอได้ 200%
ลดอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ 8%-16% (ที่ความเร็ว 98 กม./ชม.)
เพิ่มกำลังแรงม้าได้ 5%-13%
เพิ่มแรงบิดได้ 16%


นอกจากนี้ ER ยังเป็นผลิตภัณฑ์อันดับหนึ่งสำหรับนักแข่งระดับ World Champion ทีมแข่งรถระดับโลกมากมายที่ใช้ ER ในเครื่องยนต์และเกียร์ได้รับผลดีเยี่ยม

Sammy Swindell แชมป์ 3 สมัย World of Outlaws กล่าวว่า "ER ทำให้อุณหภูมิน้ำมันลดลงได้ถึง 30 องศา และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ได้เป็น 2 เท่า และกำลังแรงม้าเพิ่มขึ้น อย่างเห็นได้ชัด"
Davey Hamilton นักแข่งรถ IRL (Indy Racing League) ให้ความเห็นว่า "ผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำมันหล่อลื่นด้อยคุณภาพเลยหลังจากใช้ ER ผมใช้ ER มานานกว่า 10 ปี"
Todd Wilkerson แห่ง Brewco Motorsports กล่าวยืนยันว่า "บริษัทฯ ได้ใช้ ER มามากกว่า 3 ปีในการแข่งรถระดับชาติทุกนัด ER ทำให้เครื่องยนต์, เกียร์, เฟืองท้าย เย็นขึ้นและวิ่งได้นานขี้น"
ในการแข่งขัน TNT Racing ซึ่งขับเครื่องยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ยังได้รับประสิทธิภาพที่มากขึ้นจาก ER
 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.energyrelease.com

 



Powered by MakeWebEasy.com